top of page

Antonín Dvorák

ภาพหน้าจอ 2563-12-15 เวลา 11.24.35 PM.pn

  ประวัติครอบครัว Dvorak: พ่อของ Dvorak, Frantisek เป็นคนขายเนื้อและเจ้าของโรงแรม เขาเล่นคนขี้ขลาดเพื่อความสนุกสนานและความบันเทิง แต่ต่อมาก็เล่นอย่างมืออาชีพ มารดาของเขาแอนนามาจาก Uhy Antonin Dvorak เป็นลูกคนสุดท้องของเด็กแปดคน

ปีในวัยเด็ก: ในปี ค.ศ. 1847 Dvorak ได้เริ่มเรียนบทเรียนไวโอลินและเสียงจาก Joseph Spitz Dvorak พาไปไวโอลินอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าก็เริ่มเล่นในวงดนตรีและหมู่บ้าน ในปี ค.ศ. 1853 พ่อแม่ของ Dvorak ส่งเขาไปที่ Zlonice เพื่อดำเนินการต่อในการเรียนรู้ภาษาเยอรมันและดนตรี Joseph Toman และ Antonin Leihmann ยังคงสอนไวโอลิน Dvorak เสียงออร์แกนเปียโนและทฤษฎีดนตรี

ปีวัยรุ่น: ในปี ค.ศ. 1857 Dvorak ได้ย้ายไปที่ Prague Organ School ซึ่งเขายังคงศึกษาทฤษฎีดนตรีการประสานกันการปรับตัว improvisation และ counterpoint และ fugue ในช่วงเวลานี้ Dvorak เล่นไวโอลินใน Cecilia Society เขาเล่นผลงานจากเบโธเฟน Mendelssohn Schumann และ Wagner

ในขณะที่ปราก, Dvorak สามารถเข้าร่วมคอนเสิร์ตการเล่นเพลงโดย Liszt ดำเนินการโดย Liszt เอง. Dvorak ออกจากโรงเรียนในปี 1859 เขาเป็นคนที่สองในชั้นเรียนของเขา

ต้นปีสำหรับผู้ใหญ่: ในช่วงฤดูร้อนเดือนต่อมาของปี 1859 Dvorak ได้รับการว่าจ้างให้เล่นไวโอลินในวงเล็ก ๆ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นกลุ่มอาคารของ The Provisional Theatre Orchestra

เมื่อวงดนตรีก่อตั้งขึ้น Dvorak กลายเป็นนักไวโอลินรายใหญ่ 2408 ใน Dvorak สอนเปียโนกับลูกสาวของช่างทอง; หนึ่งในนั้นกลายเป็นภรรยาของเขา (Anna Cermakova) มันไม่ได้จนกว่า 1871 เมื่อ Dvorak ออกจากโรงละคร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Dvorak แต่งเป็นส่วนตัว

กลางปีสำหรับผู้ใหญ่: เนื่องจากผลงานต้นของเขาเป็นที่ต้องการมากเกินไปสำหรับศิลปินที่ดำเนินการเหล่านั้น Dvorak ประเมินและปรับปรุงงานของเขา เขาหันหลังให้พ้นจากสไตล์เยอรมันดั้งเดิมของเขาเป็นภาษาสลาฟแบบคลาสสิกมากขึ้น นอกเหนือจากการสอนเปียโน Dvorak นำมาประยุกต์ใช้กับ Stipendium ของรัฐออสเตรียเพื่อเป็นรายได้ ในปีพ. ศ. 2420 บราห์มประทับใจในผลงานของดาเว็กผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 400 คน จดหมายที่เขียนขึ้นโดย Brahms เกี่ยวกับเพลงของ Dvorak ทำให้ Dvorak มีชื่อเสียงมาก

ปลายปีสำหรับผู้ใหญ่: ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาในชีวิตของ Dvorak ดนตรีและชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักในระดับสากล Dvorak ได้รับเกียรติยศมากมายรางวัลและปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ ในปีพ. ศ. 2435 Dvorak ได้ย้ายไปอเมริกาเพื่อทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการศิลปะของ National Conservatory of Music ในนิวยอร์กสำหรับ 15,000 เหรียญ (เกือบ 25 เท่าที่เขาได้รับในปราก) การแสดงครั้งแรกของเขาได้รับที่ Carnegie Hall (รอบปฐมทัศน์ของ Te Deum )

Dvorak's New World Symphony เขียนขึ้นในอเมริกา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1904 Dvorak เสียชีวิตจากความเจ็บป่วย

  ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ทำให้มีการรับรู้ถึงเอกลักษณ์ประจำชาติมากขึ้น ไปยังกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในยุโรปและอาชีพนักดนตรีของDvorák คือ

ได้รับอิทธิพลจากจิตวิญญาณแห่งชาตินิยมโบฮีเมียน Dvorákเกิดใกล้กรุงปรากเรียนไวโอลินกับอาจารย์ในโรงเรียนในท้องถิ่น จากนั้นในปี 1857 เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนออร์แกนในเมือง เขาได้รับอิทธิพล โดย Smetana นักแต่งเพลงชาวเช็กผู้กำกับ Opera Orchestra ใน ซึ่งDvorákเล่นวิโอลา จากนั้นด้วยการให้กำลังใจในเชิงบวกของบราห์มส์เขา อุทิศชีวิตส่วนใหญ่ให้กับการแต่งเพลง ต่อมาเขาได้เป็นศาสตราจารย์ด้านองค์ประกอบที่ Prague Conservatoire 2435 ถึง 2438 เขาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการคนใหม่ National Conservatory ในนิวยอร์กซิตี้ซึ่งเป็นช่วงที่ผลงานของเขาแสดงให้เห็น มีความสนใจอย่างลึกซึ้งในดนตรีพื้นบ้านอเมริกัน เขาเดินทางไปอังกฤษหลายครั้ง เป็นที่นิยมและชื่นชมมาก

Sonatina in G major สำหรับไวโอลินและเปียโนถูกเขียนขึ้นในช่วงสามปีของ Dvorak การพำนักของชาวอเมริกันในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ National Conservatory of Music ในนิวยอร์ค มัน ถูกแต่งขึ้นในปีพ. ศ. 2436 พร้อมกับวงเครื่องสายอเมริกัน Op 96 ในขณะที่ Dvorak เป็น ในอาณานิคมของเช็กใน Spillville Iowa มันแต่งขึ้นสำหรับลูก ๆ ของเขาและเรียบง่าย ให้พวกเขาเล่น แต่ด้วยความหวังว่าผู้ใหญ่ก็น่าจะชอบเช่นกัน

ภาพหน้าจอ 2563-12-16 เวลา 12.19.52 AM.pn

The color of this song.

Key

Dog on Pink
  Gmajor อาจมองว่าเป็นคีย์ธรรมดา แต่คีย์ Gmajor เป็นทุกความเงียบสงบและความพึงพอใจ เป็นทุกความอ่อนโยนต่อเพื่อนแท้ และการซื่อสัตว์ต่อความรัก ในคำพูดที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหวและสงบของหัวใจจะแสดงออกผ่านคีย์นี้
Gminor คืออารมณ์ความไม่พอใจ ไม่สบายใจ กังวลกับความล้มเหลว มีอารมณ์ร้าย กัดฟัน แสดงถึงความไม่พอใจและไม่ชอบ

Rymthm

  ในท่อนแรก ใช้รูปแบบจังหวะแบบ 3/4 โดยส่วนมากจะเป็นโน้ตตัวดำและเขบ็จ1ชั้น ทำให้รู้สึกถึงความสนุกสนานในท่อนแรก ด้วยจังหวะที่เร็วปานกลาง และมี aticulation ทีมีความน่ารัก และมีความขี้เล่น 
ท่อนสอง ใช้รูปแบบจังหวะแบบ 2/4 อยู่ในจังหวะที่ช้า ส่วนมากจะเป็นโน้ตเขบ็จ 2 ชั้น เป็นการเล่นโน้ตซ้ำๆกันที่เป็นเขบ็จ 2 ชั้น ทำให้ส่งแนวทำนองให้รู้สึกมุ่งไปข้างหน้า และไม่รู้สึกช้าจนเกินไป
ท่อน3 ใช้รูปแบบจังหวะแบบ 3/4 เป็นโน้ตตัวดำ ที่จะเป็นเป็นจังหวะยก และสั้นเป็นสั้นๆ และส่วนมากจะเน้นเสียง ทำให้เพลงสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในท่อนนี้ ดูน่ารักและแข็งแรงระหว่างการเปลี่ยนผ่านที่เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจน
ท่อน 4 ใช้รูปแบบจังหวะแบบ 2/4 มีการใส่ใจรายละเอียดและลีลาการประพันธ์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการใส่โน๊ตประดับและทริวเพื่อเพิ่มสีสัน และเพิ่มความรู้สึกเยาว์วัยและสนุกนาน มีโน้ตที่เป็นซิงโคเปชั่นเพื่อเล่นกับแอคคอม ทำให้เพลงมีความสับสน กันในจังหวะ โดยไม่ละทิ้งความสนุกสนานด้วยการใส่โน๊ตประดับและทริว ทั้งยังมีความท้าทายให้กับผู้เล่นในเรื่องจังหวะที่ต้องมันคงและจบด้วยการเร่งจังหวะขึ้นในตอนท้าย ทั้งหมดนี้ทำให้จังหวะ ในเพลงนี้เสริมอรรถรสในการหวนเวลาไปสู่วัยเยาว์ให้กับผู้ฟังได้

Harmony

  ท่อนแรก เป็นการหยอกล้อกัน สลับกันเล่นไลน์ทำนอง แล้วก็จะมีช่วงที่ไวโอลินเล่นเป็นตัว และ เปียโนเล่นเป็น3 พยางค์  แล้วไวโอลินเล่น3 พยางค์สลับกันไปประมาณ 3ห้อง ทำให้แสดงถึงความน่ารักของเสียงประสาน
ท่อน 2 ในส่วนของเปียโนจะเป็นเป็นกดคอร์ด ทั้งห้อง เป็นการเล่นแบบ เน้นคอร์ดยาวๆ ทำให้เพลงรู้สึกถึงความอ่อนแอ ส่วนในส่วนที่เป็นเขบ็ต2 ชั้นซ้ำๆ เปียโนก็จะกดคอร์ดเป็นตัวดำไปเรื่อยๆ
ท่อน3 ในส่วนที่เราเล่นจังหวะยก เปียโนจะเล่นเป็นจังหวะตก ทำให้ฟังดูหยอกล้อเล่นกัน 
ท่อน3ในท่อนนี้ ในขณะที่ไวโอลินเล่นเป็นตัวดำ เปียโนจะเล่นเป็น 3 พยางค์ในส่วนใหญ่ ส่วนในท่อนที่ช้า เปียโนก็จะเล่นเป็นคอร์ดยาวๆ ทำให้เพลงดูมีความอ่นหวาน น่ารัก พอในช่วงก่อนจบ ไวโอลินและเปียโน จะเล่นเป็นเขบ็ต 2 ชั้นไปด้วยกัน ทำให้สนุกมากขึ้น

My Memories

  Dvorak ในท่อนแรกเปิดมาในท่อน Allegro risotuto, 3/4 อยู่ในคีย์ Gmajor เป็นท่อนค่อนข้างสื่อความทรงจำของฉันในช่วงวัยกำลังวิ่งเล่นอยู่ในโรงเรียนสมัยประถมศึกษา ทำให้นึกถึงช่วงเวลาพักกลางวัน ตอนเล่นกระโดดหนังยางกับเพื่อน เล่นหมากเก็บ การรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน การแปรงฟันหลังรับประทานอาหาร ต้องท่อง " ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง " และเดินขึ้นห้องเรียนพร้อมเพื่อนๆ ด้วยความที่ท่อนนี้มีช่วงที่ไวโอลินกับเปียโนหยอกล้อกันจึงทำให้หนูย้อนคิดถึงช่วงวัยสมัยประถมศึกษามากที่สุด เป็นช่วงที่เล่นและหยอกล้อกับเพื่อนกันอย่างสนุกสนาน อีกอย่างท่อนนี้ส่วนมากจะเน้น Dinamic ที่หยอกล้อน่ารัก เบาดัง เมือนช่วงเวลาของฉันตอนเด็ก
ท่อนที่ 2 Larghetto 2/4 Gminor ด้วยจังหวะที่ช้าและเป็นบันไดเสียง Minor ทำให้ท่อนนี้รูสึกเหมือนจะเศร้า จึงทำให้ฉันคิดถึงช่วงเวลาสมัยวัยเด็กถึงจะเป็นความเศร้าแต่ก็ยังแฝงความเป็นเป็นคามน่ารักตามวัย เพราะจะมีช่วงที่เปียโนเล่นเป็น Melody ไวโอลินเล่นแอคคอมทำให้ฉันคิดถึงความเศร้าตอนที่แม่ไม่ซื้อกระเป๋าดินสอให้พร้อมทั้งบ่นว่า "มีกระเป๋าดินสออยู่แล้วจะซื้อทำไมอีก" ด้วยความที่ฉันยังเป็นเด็กและเอาแต่ใจตัวเอง ตอนนั้นฉันจึงเศร้าและมานั่งแอบร้องไห้คนเดี่ยวเพื่อรอแม่มาง้อ พอเมื่อแม่ง้อด้วยขนมของโปรดฉันก็กลับมายิ้ม ก็เหมือนเพลงในช่วงกลางของท่อนที่ 2 ที่มีความน่ารักโน้ตจะเป็น Sixteen note เล่นเป็นสั้นๆ เหมือนตัวฉันตอนแม่ซื้อขนมของโปรดมาง้อ
ท่อนที่ 3 Molto vivace 3/4 Gmajor ท่อนนี้จะมีจังหวะที่ค่อยข้างจะน่ารักเหมือนฉันในช่วงที่ได้ทานอาหารที่ชอบในวัยเด็ก ช่วงเวลานี้ฉันมีความสุขมากช่วงเวลาหนึ่ง โดยที่ฉันตอนนั้นไม่มีเรื่องที่ต้องเก็บมาคิดมาก แค่เล่น เรียน และในช่วงที่ยังไม่มีโทรศัพท์ฉันชอบช่วงเวลานี้ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่สั้นแต่ฉันก็มีความสุข จะมีช่วงนึงของท่อนที่เป็นกระแทกโน้ตเป็นเขบ็ต 1 ชั้น เหมือนตอนหนูทะเลาะกับเพื่อนตอนเด็กที่ทะเลาะกันแล้วก็ดีกัน
ท่อนที่ 4 Allego 2/4 Gmajor ท่อนนี้ฉันนึกถึงกิจกรรมในโรงเรียนสมัยประถมศึกษา ช่วงที่มีรถไมโลมาที่โรงเรียน ฉันจะตื่นเต้นเหมือนได้รางวัลให้กับชีวิต แล้วในเพลงนี้มีช่วงที่ัหวะที่ช้าลง ทำให้ฉันนึกถึงช่วงที่ได้ขึ้นไปบนเวทีในสมัยประถมศึกษา ได้รับรางวัลต่อจากท่อนตรงนั้นจะเป็นโน้ต เหมือนตัวฉันหลังจากฉันทำไรไม่ถูกได้แต่กระโดดอยู่ตรงนั้น *ฉันให้ Dvorak เป็นสีชมพูเพราะเป็นช่วงเวลาน่ารักของฉันในตอนนั้น
bottom of page