top of page
ภาพหน้าจอ 2563-12-15 เวลา 11.25.40 PM.pn

เสียชีวิต: 14 เมษายน 1759 - ลอนดอน

ฮันเดลได้เขียนเพลงหลายประเภทสำหรับเวลาของเขาและแม้แต่คิดค้น oratorio ภาษาอังกฤษ Handel เป็นที่รู้จักมากที่สุดในภาษาอังกฤษ oratorio , Messiah

Handel เกิดในปีเดียวกับ Bach ในเมืองห่าง 50 ไมล์

ในเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 1727 ฮันเนี่ยนนำมาประยุกต์ใช้ในการเป็นพลเมืองอังกฤษสัญชาติ

ความเป็นมาของครอบครัวฮันเดล: ฮันเดลเกิดกับ Georg Handel (2122-97) และ Dorothea Taust (1651-1730)

พ่อของฮันเดลเฟรดเป็นช่างตัดผม - ศัลยแพทย์สำหรับดยุคแห่งแซ็กซ์ - Weissenfels; แม่ของเขาเป็นลูกสาวของศิษยาภิบาล

บันทึกไว้ว่าฮันได้ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัย Halle ในปี ค.ศ. 1702 หลังจากนั้นหนึ่งเดือนฮันได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดงานออร์กาไนเซอร์ที่ Calvinist Cathedral แต่หลังจากนั้น หนึ่งปีสัญญาของเขาไม่ได้ต่ออายุ ฮันเดตัดสินใจว่าเขาจะทำตามความฝันทางดนตรีของเขาและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ออกจาก Halle for Hamburg

ต้นปีสำหรับผู้ใหญ่: ในเมืองฮัมบูร์กฮันเล่นไวโอลินและเปียโนสำหรับ บริษัท โอเปร่าแห่งเดียวในเยอรมนีที่มีอยู่นอกราชสำนักและยังสอนบทเรียนส่วนตัว ฮันเขียนบท ละครเรื่อง แรก Almira ในปี ค.ศ. 1704 ในปี ค.ศ. 1706 ฮันได้ย้ายไปอยู่ที่อิตาลีซึ่งเขาได้รับความรู้มากมายเกี่ยวกับการตั้งค่าเนื้อเพลงของอิตาลี

ใน 1,710 เขาได้รับการแต่งตั้ง Kapellmeister ที่ Hanover แต่ไม่ช้าก็ออกไปลอนดอน. จากนั้นในปี ค.ศ. 1719 เขากลายเป็นผู้อำนวยการดนตรีของ

Royal Academy of Music ช่วงเวลาของ Handel ในช่วงทศวรรษที่ 1720 และยุค 30 ใช้เวลาเขียนละครน้ำเน่า อย่างไรก็ตามเขายังคงมีเวลาเขียนงานอื่น ๆ อีกมากมาย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในปี ค.ศ. 1730 opera ของ Handel ไม่ประสบความสำเร็จ กลัวความสำเร็จในอนาคตของเขาเขาตอบโดยมุ่งเน้นที่ oratorio ในปี ค.ศ. 1741 ฮันได้แต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยมีนักร้องประสานเสียง 16 คนและวงออเคสตราจาก 40 คนเขาเดินทางไปดับลินเพื่อชมการแสดงรอบปฐมทัศน์

  onata in D major เป็นหนึ่งในผลงานในห้องที่ดีที่สุดของเขาซึ่งสร้างชื่อเสียง โซนาต้ามีการเคลื่อนไหวสี่แบบในลำดับช้า - เร็ว - ช้า - เร็วของโซนาตา Adagio จุดเริ่มต้นที่น่าประทับใจ ไวโอลินวางสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นโน้ตของคอร์ด D-major (DF-sharp-AD) แต่แทนที่จะเป็น D สุดท้ายฮันเดลกลับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งเพื่อให้คำกล่าวเปิดคือ DF-sharp-AE ที่ไม่คาดคิด . ผลกระทบที่น่าประหลาดใจ - ไม่มั่นคง! - สร้างการเคลื่อนไหวที่ช้าลงอย่างช้าๆเพื่อศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่และบางทีมันอาจเป็นผลกระทบที่ขรุขระและไม่คาดคิดของท่าทางเปิดนั้นที่ทำให้การเคลื่อนไหวนี้แข็งแกร่ง การเคลื่อนไหวที่สองซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการก่อสร้างถูกทำเครื่องหมายว่า Allegro แต่ดูเหมือนว่าจะเร่งขึ้นในขณะที่ดำเนินไปเนื่องจากฮันเดลลดค่าเวลาของลำดับโน้ตของเขาลง: เขาเริ่มต้นด้วยโน้ตครึ่งตัวจากนั้นไปที่แปดถึงสิบหกและ จากนั้นก็จะล้อเลียนและโมเดิร์นเพื่อให้จังหวะดูเหมือนจะเร่งรีบไปข้างหน้าแม้ว่าการแสดงควรจะคงที่ Larghetto ใน B minor มีลักษณะที่มืดมนและเป็นพิธีการเนื่องจากเส้นเสียงของไวโอลินที่มีความไพเราะอยู่เหนือเสียงประสานที่มั่นคงของแป้นพิมพ์ในขณะที่ Allegro ที่สรุปในรูปแบบไบนารีถูกขับเคลื่อนด้วยพลังของจังหวะประและการวิ่งของโน้ตที่สิบหก . ผู้ที่รู้จัก oratorios ของ Handel จะจำเพลง Sonata นี้ได้บางส่วนเพราะเขาชอบการเคลื่อนไหวของ Allegro สองตัวของ Sonata นี้มาก

ภาพหน้าจอ 2563-12-16 เวลา 12.51.49 AM.pn

THE COLOR OF THIS SONG.

Gradient Purple Blue

Key

  DMajor เป็นคีย์ที่แสดงถึงชัยชนะสงครามและเสียงและเสียงโห่ร้องแห่งความยินดี
Bminor เป็นคีย์ที่แสดงถึงความอดทนการรอคอยของคนๆหนึ่งต่อชะตากรรมและการยอมจำนนการประทานอภัยต่อพระเจ้า

Rymthm

  ในท่อนแรกใช้รูปแบบจังหวะแบบ 4/4 ส่วนมากจะเป็นโน้ตเขบ็ตสองชั้น และจะมีกลุ่มโน้ตที่เป็นเขบ็ตเขบ็ตหนึ่งชั้นปะจุดตามด้วยเขบ๊ต2ชั้น แต่มีจังหวะที่ช้า จึงทำให้เป็นท่อนช้าที่ค่อนข้างจะเพราะ และท่อนนี้มีทริวเป็นส่วนมาก ทำให้รู้สึกกินใจอารมณ์ ให้รู้สึกถึงความคิดถึง
ท่อนสอง ส่วนมากจะเป็นโน้ตเขบ็ต2ชั้น และเล่นเป็นแบบสั้นๆ ให้ถึงถึงความขี้เล่น มีการเล่นเป็นจังหวะยก ทำให้รู้สึกถึงการเล่นของโน้ตและย้อนวัยของความทรงจำของเรา
ท่อนสาม ส่วนมากจะเป็นกลุ่มโน้ตที่เป็นเขบ็ตหนึ่งชั้น และต่อด้วยโน้ตเขบ็ตสองชั้นปะจุดส่วนมากในท่อนนี้ โน้ตจะเดินทางไปเป็นกลุ่ม
ท่อนสี่ ส่วนมากจะเป็นโน้ตเขบ็ตสองชั้น ทำให้รุ้สึกถึงความขี้เล่นของตัวโน้ต

Harmony

  ท่อนแรกส่วนของเปียโนจะเป็นโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น เหมือนเดินทางเป็นจังหวะตกให้เสมอ อย่างเช่นในตอนขึ้นต้น เปียโนขึ้นมาเป็นจังหวะตก แล้วไวโอลินขึ้นด้วยจังหวะยก แต่ด้วยความที่เป็นจังหวะที่ช้า ทำให้รู้สึกถึงความหนักแน่น ท่อนสองเปียโนสลับกันเล่นเขบ็ตสองชั้นพร้อมกับไลน์ทำนองหลักให้รู้สึกถึงความน่ารัก ขี้เล่นของตัวเพลง ท่อนสาม เปียโนจะเล่นเป็นตัวดำ ในขณะที่ไวโอลินเล่นโน้ตเป็นกลุ่ม ให้รู้สึกโน้ตมันหนักหน่วง เพราะเปียโนเดินทางเป็นตัวดำตลอดเวลา ท่อนสี่ จะคล้ายกับท่อนสอง เพราะเปียโนเล่นโน้ตสลับกับเรา เป็นเขบ็ตสองชั้น

My Memories.

  ท่อนแรก Afetuoso เป็นจังหวะที่ค่อนข้างช้า ทำให้ฉันนึกถึงตัวเอง
ตอนมัถยมปลาย เป็นท่อนที่ทำให้รู้สึกถึงความคิดถึงเรื่องราวดีๆในช่วงนั้น เป็นความช้าที่ทำให้รู้สึกถึงเพื่อนเก่าๆ เพื่อนที่ทำอะไรด้วยกันมากมาย เข้าค่ายด้วย ผ่านอะไรกันมามากมาย โดนว่าโดนตีมาด้วยกัน ร้องไห้ร่วมกัน ความที่มัถยมของฉันเป็นห้องเรียนที่เรียนดนตรีกันทั้งห้อง ความสัมพันธ์จะเป็นแนวที่เป็นว่างก็จับกีต้าร์มาร้องเพลงร่วมกันตอนพักกลางวัน เมื่อฟังท่อนนี้ทำให้ฉันรู้สึกนึกถึงช่วงเวลานั้น

ท่อนสอง allegro เป็นท่อนที่ค่อยข้างเร็วและโน้ตจะวิ่งเป็นเขบ็ต 2 ชั้นในส่วนมาก ทำให้รู้สึกถึงการกระโดดโลดเต้นกับเพื่อนๆ ในช่วงวัยมัถยมปลาย นึกถึงช่วงที่ร้องเพลงด้วยกันเล่นด้วยกัน วิ่งหนีอาจารย์ด้วยกัน โดดเรียนด้วยกัน เพราะเป็นท่อนที่ทำให้นึกถึงความสนุกสนาน มีโน้ตที่เป็นสั้นๆมีการทริวโน้ต ทำให้รู้สึกถึงความสนุกสนานเพิ่มมากขึ้น
ท่อน 3 larghetto เป็นท่อนช้า ท่อนนี้เป็นท่อนที่ค่อนข้างเศร้า ทำให้นึกถึง ช่วงก่อนจากกันในวันปัจฉิมมอหก ความรู้สึกที่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันแล้ว เป็นการจากลาที่จะไม่ได้นั่งเรียนร่วมกันแล้ว จะไม่ได้ความทรงจำพักกลางวันนั่งเล่นกีต้าร์ด้วยกันแล้ว ทุกคนจะจากกันไปแยกในมหาลัยที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ เป็นความเศร้าที่คิดว่าจะต้องคิดถึงกันมากแน่ๆ ในท่อนนี้เป็นไมเนอร์ ทำให้รู้สึกเศร้าและดึงอารมณ์ ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันเป็นความคิดถึงที่เราจะต้องจากกากับเพื่อนๆ
ท่อน 4 allegro กลับมาจังหวะเร็วอีกครั้ง เป็นความสนุกที่ตอนที่ทุกคนแยกกันไปในมหาลัย เป็นความรู้สึกที่ในช่วงที่ทุกคนมีที่เรียนได้ไปเรียนในที่ที่ชอบกัน สีหน้าของเพื่อนๆทุกคนดูมีความสุข เพลงนี้ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่ฉันมองหน้าเพื่อนๆทุกคน ตอนที่เพื่อนกำลังจะมีความสุข เป็นความรู้สึกที่ยิ้มอยู่ข้างใน สุดท้ายถึงจะแยกย้ายไปกันคนละมหาลัย สุดท้ายเราก็ยังเจอกันได้เหมือนเดิม เป็นความสุขที่อยู่ภายในใจ 
bottom of page